วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ทำไมจึงไม่ควรใช้ถ่าน Alkaline กับกล้องดิจิตอล?

มีคำถามว่า ทำไม ใช้ถ่าน alkaline กับกล้องดิจิตอลแล้วหมดเร็วมาก สงสัยว่า ถ่าน alkaline มีความจุกี่ mAh กันแน่? ทาง Oska Lab เคยมีการทดสอบถ่าน alkaline ว่ามีความจุเท่าไหร่ วัดโดยการดึงกระแสต่ำไปเรื่อยๆ ผลที่ออกมา ถ่าน alkaline ดีๆขนาด AA จะมีความจุถึง 2800-3000 mAh ในขณะที่ถ่านชาร์จ มีความจุอย่างมากก็แค่ 2700-2800 mAH ดูตามนี้แล้ว ถ่าน alkaline ก็น่าจะถ่ายรูปได้มากกว่าถ่านชาร์จ แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม หลายๆคนคงเคยลองมาแล้ว ถ่าน alkaline เอามาใส่กล้อง ถ่ายได้ 5 รูป 10 รูปก็ไฟหมด ยิ่งถ่านราคาถูกยิ่งแล้วใหญ่ แค่เปิดกล้องขึ้นมากล้องก็ฟ้องว่า battery low แล้วก็ปิดไปเลย แต่ถ่านชาร์จแค่ 2000 mAh กลับถ่ายได้ร้อยกว่ารูปเหตุผลคือ ถ่าน alkaline (และถ่านใช้แล้วทิ้งอื่นๆ) มีความต้านทานภายในสูง จึงไม่สามารถจ่ายกระแสไฟออกมามากๆได้ แม้ความจุจะเยอะก็จริง แต่จ่ายกระแสไฟได้น้อย กล้องดิจิตอลเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการกระแสไฟสูงมากเป็นช่วงๆ เมื่อกล้องต้องการไฟ ถ่านจ่ายให้ไม่ไหว แรงดันไฟจึงตก กล้องจึงเข้าใจว่า ถ่านหมดแล้ว ก็เลยปิดตัวเองลงเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ลองนึกถึงรถที่มีถังน้ำมันขนาดใหญ่มาก มีน้ำมันจุอยู่เต็ม แต่ท่อที่ส่งน้ำมันเข้าเครื่องมีขนาดเล็กมาก เมื่อเครื่องยนต์ถูกเร่งขึ้น เครื่องก็ต้องการสูบน้ำมันมากขึ้นเพื่อมาผลิตเป็นพลังงาน แต่เนื่องจากท่อเล็กเกินไปไม่สามารถจ่ายกระแสน้ำมันได้อย่างเพียงพอ เครื่องยนต์ก็สะดุด ไม่สามารถเร่งขึ้นมาได้แต่ในทางกลับกัน ถ่านชาร์จแบบ NiMH แม้จะบรรจุพลังงานน้อยกว่า แต่ความต้านทานภายในต่ำ สามารถจ่ายกระแสได้อย่างเต็มที่ไม่ว่ากล้องจะต้องการพลังงานมากแค่ไหนก็จ่ายให้ได้โดยที่แรงดันไม่ตก จึงสามารถใช้ถ่ายรูปได้เป็นร้อยๆรูป เปรียบเหมือนน้ำมันถังเล็กกว่าแท่ท่อส่งน้ำมันใหญ่ เครื่องยนต์จะต้องการสูบน้ำมันไปใช้แค่ไหนก็จ่ายให้ได้อย่างเพียงพอ จนน้ำมันหมดถังนี่คือเหตุผลว่าทำไม แม้กล้องคุณจะใช้ถ่านขนาด AA ที่หาซื้อได้ง่าย แต่คุณก็ยังควรใช้ถ่านชาร์จเป็นหลัก ส่วนถ่าน alkaline นั้น ควรใช้ในกรณีเมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้นครับ อ้างอิง : ผู้จัดการรายสัปดาห์

ไม่มีความคิดเห็น: